Thursday 3 December 2015

Low Self Esteem : เมื่อการรับรู้คุณค่าในตนเอง ลดต่ำลงไป (1)


Part แรกขอเป็นการเล่าประสบณ์การตรงนะครับ 

Self-Esteem : (n.) confidence in one's own worth or abilities
   ผมเองก็ไม่ทราบคำแปลแบบเป็นทางการของคำๆนี้นะครับ อาจจะแปลว่า การมีความภาคภูมิในตัวเอง หรือ การเห็นคุณค่าในตนเอง ก็ได้นะครับ ซึ่งมันไม่ใช่การภาคภูมิใจแบบโอ้อวดออกมาภายนอกนะครับ แต่จะเป็นในแง่ของ ความรู้สึกภายในจริงๆ ที่ยอมรับในคุณค่าของตัวเอง ยอมรับว่าฉันก็เป็นคนอย่างนี้ ฉันสามารถทำอะไรๆสำเร็จได้ ฉันเป็นที่ยอมรับของคนอื่นได้

Low Self - Esteem ก็จึงหมายถึง การมีความภาคภูมิใจในตัวเองต่ำ ไม่ค่อยเห็นคุณค่าของตนเองนั่งเอง

เคยมีความรู้สึก "ไม่มีตัวตน" ไหมครับ?
แล้ว เคยรู้สึกว่าทุกๆอย่างที่ผ่านมาในชีวิตมัน "พัง" ไหมครับ ?
ตัวผมเองก็มีความรู้สึกนี้เกิดมาไม่น้อยเลย

รู้สึกว่าตัวเองล้มเหลวไปหมดทุกอย่างทั้ง การเรียนก็ไม่ดี การงานก็ห่วย ชีวิตสังคม...ก็ดันเป็นพวก introvert อีก เห็นคนอื่นเขามีเพื่อนเที่ยวเพื่อนกินข้าวเยอะแยะ บางทีก็อิจฉา  พอจะทำอะไรแปลกๆใหม่ๆ  คิดว่าตัวเองมีความสามารถไม่พออยู่ตลอด อยากทำแต่ก็กลัวล้มเหลว เพราะคิดว่าตัวเองไม่ดีพอ 
.....ทั้งๆที่ในใจจริงๆ ก็รู้ว่า ตัวเองก็ไม่แย่ขนาดนั้น ยังมีเงินพอใช้ ไม่มีหนี้ หน้าตายังดูเป็นคนปกติ เรียนก็ไม่ซ้ำชั้น นิสัยไม่แย่ขนาดสังคมประนาม มีเวลามาว่างพอมานั่งเล่นอินเตอร์เน็ต
...... และผมยังมีทรัพยากร มีโอกาสมากกว่าหลายๆคน ซึ่งหากชีวิตผมมัน "พัง" จริงๆ ป่านนี้คนอีกหลายแสนล้านคน ก็ต้องมีความรู้สึกอย่างนี้กันไปหมด แต่พวกเขาก็ดูมีความสุขกับชีวิตดี
...... แต่ความยากมันก็คือนี่แหละครับ ถามว่ารู้ตัวเองมั้ย ก็รู้ แต่มันหยุดคิดไม่ได้
...... ยิ่งมาเจอคำแนะนำพวก "เอ็งอะคิดมาก" , "เอ็งอยู่มาได้ขนาดนี้ ก็โชคดีกว่าคนในแอฟริกาตั้งไม่รู้กี่เท่า จะบ่นทำไม " ซึ่งไอ้คำแนะนำแนวๆนี้ ผมก็เข้าใจว่าเขาอาจจะหวังดีนะครับ แต่มันเหมือนกับบอกให้คนที่เป็นไข้ว่า "เอ็งจะตัวร้อนไปทำไม"
...... เคยหาข้อมูลในInternet ส่วนใหญ่ก็ดันเป็นคำแนะนำผู้ปกครองในการเลี้ยงบุตรหลานให้โตมามี Self-Esteem  ทีนี้ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ เหมือนโดนตอกย้ำว่าเอ็งพลาดมาตั้งแต่การเลี้ยงดู มาแก้ตอนนี้ก็ยากแล้ว หรือไม่งั้นก็เป็นคำแนะนำวิธีการปรับจิตต่างๆ ยาวเป็น 4-5 หน้า ซึ่งได้แค่อ่าน แต่ก็ไม่รู้สึกว่ามันจะช่วยอะไรได้จริง

ความรู้สึก Low - self esteem นี้หนักขึ้นเรื่อยๆ จนถึงขั้นอยากฆ่าตัวตายนั่นแหละครับ

แต่ก็ดันรู้อีกว่า ยังไม่ถึงเป็นขั้นของ "โรคซึมเศร้า" (low self esteem เป็นสาเหตุหนึ่งที่เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคซึมเศร้าได้ครับ จากข้อมูลงานวิจัย) 
คือการฆ่าตัวตายนี่ มันเหมือนกับการหนีปัญหานั่นแหละ คือในหัวมันก็คิดว่าตัวเองมันไม่มีดีอะไรซักอย่าง ครั้นจะพัฒนาตัวเอง ก็รู้สึกตัวเองแก่ขึ้นเรื่อยๆ วิธีที่ง่ายที่สุดก็คือ กดปุ่ม reset ชีวิตตัวเองนี่แหละครับ

ซึ่งความจริงผมแอบอยากเป็นโรคซึมเศร้านะ เพราะอย่างน้อยมันก็มียารักษา แต่ไอ้ Low self-esteem นี่มันไม่มียา มันรักษาโดยการทำ "จิตบำบัด" ซึ่งฟังแค่ชื่อก็คิดว่า กินยาง่ายกว่าเยอะ

สุดท้ายผมก็ได้ตัดสินใจไปหาจิตแพทย์จริงๆนั่นแหละครับ พร้อมในใจลึกๆหวังว่าเขาจะให้ยากลับมากิน

แต่สุดท้าย ก็โดน "จิตบำบัด" กลับมา

จิตแพทย์คนนั้นให้ผมกลับมาคิดว่า เป้าหมายของชีวิตผมคืออะไร และ ผมอยากเป็นคนแบบไหน

แน่นอนว่ามันก็เป็นงานถนัดของคนintrovert นี่แหละครับ นั่งคิดเรื่อยๆ เพลินๆ เงียบๆ อยู่คนเดียว

คิดไปคิดมา มันก็เกิดดวงตาเห็นธรรม (เว่อ) แล้วความรู้สึก Low self-esteem ความรู้สึกอยากตาย มันก็หายไปเลยครับ ราวกับปิดสวิทซ์
สิ่งที่ผมคิดได้ก็คือต้นเหตุการ Low Self Esteem ของผมนั่นแหละครับ มันก็คือ

1. เสียงในหัว : เจ้าตัวนี้คอยกำกับความคิด อารมณ์ การกระทำของผมเสมอ ตอนแรกผมจะเป็นนายมัน แต่ลึกๆแล้ว มันใม่ใช่เลย เจ้าเสียงนี้เป็นคนบอกผมว่า "อย่าทำเลย ไม่สำเร็จหรอก" , "โตมาป่านนี้ ยังไม่ประสบความสำเร็จอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย" , และมันยังเป็นตัวที่ทำให้ผม มีความคิด "เปรียบเทียบ" กับคนอื่นตลอดเวลา
     ประกอบกับการเป็น introvert ที่ชอบนั่งคิดอะไรในใจตลอดเวลา มันก็ยิ่งผลักดันให้ความคิดลบๆมันไหลวนในหัวไม่รู้จักจบสิ้น
2. การเปรียบเทียบ : ก่อนหน้านี้ ผมมักจะบอกตัวเองจริงๆเสมอว่า ผมไม่ชอบการเปรียบเทียบ ทุกๆคนมีคุณค่าในตัวเอง มีความเป็นปัจเจก ซึ่งเปรียบเทียบไม่ได้ ..... แต่ลึกๆแล้ว ผมกลับชอบเปรียบเทียบกับคนอื่นเสมอๆ ยิ่งปัจจุบันเวลา Slide facebook ทีไร ก็จะมีรูปของเพื่อนๆที่มีผลงานมาอวดมากมาย หรือแค่มี caption ชีวิตดี เจอแบบนี้ถี่ๆนานๆเข้า มันก็อดเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นไม่ได้นั่นแหละครับ ความอยากมันก็ผุดขึ้นมามากมาย อยากเก่งกว่านี้ อยากเข้าสังคมเก่งกว่านี้ อยากพูดเก่งกว่านี้ อยากมีผลงานเจ๋งๆในชีวิตบ้าง ซึ่งความคิดเหล่านี้ ยิ่งทำให้ผมมองคุณค่าในตัวเองต่ำไป
    การเปรียบเทียบนี้ก็หมายรวมถึงกับคนที่ดู"ด้อย" กว่าเราด้วยแหละครับ ซึ่งเมื่อมีการเปรียบเทียบเกิดขึ้นแล้ว ไม่ว่าเราจะเก่งกว่าคนอื่นยังไง ท้ายที่สุดมันก็ต้องมีคนเก่งกว่าเรา ดีกว่าเรา เสมอ 

ซึ่งพอมาคิดถึงต้นเหตุปัญหาได้จริงๆ ผมว่ามันเหมือนกับเราก็จะหาทางออกได้เองนั่นแหละครับ ก็คือการ "หยุดคิด" มีสติกับตัวให้มากขึ้น รู้ทันเสียงในหัวให้มากขึ้น ไม่เปรียบเทียบกับใคร คิดแค่ว่าเป้าหมายตัวเองคืออะไร และจะทำอะไรให้ได้มันมา "ทำ" มากขึ้น กลัวความ"ล้มเหลว" ให้น้อยลง

จะเห็นว่าการแก้ปัญหาที่ผมคิดได้นั้น มันก็ไม่ได้วิเศษอะไรเลย คุณไปหาบทความไหนๆมันก็มีเขียนแหละครับ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การที่คุณต้อง"รู้ให้ได้แน่จริงๆ" ว่า ต้นเหตุความ Dark side ของคุณนี้มันเกิดจากอะไร

แล้วสิ่งนี้มันก็จะผ่านไปครับ







4 comments:

  1. ขอบคุณค่ะ :)

    ReplyDelete
  2. ขอบคุณสำหรับการแชร์ประสบการณ์และวิธีแก้ค่ะ<3

    ReplyDelete
  3. ขอบคุณมากคะ

    ReplyDelete
  4. ขอบคุณมากนะคะ ตัวเองเป็นโรคซึมเศร้าค่ะ แต่พอมานั่งพิจารณาแล้วสาเหตุเริ่มต้นมาจากการมี low self-esteem นี่แหละค่ะ พยายามหาทางเรียกมันกลับคืนมาอยู่ทั้งๆที่ตอนเด็กๆเป็นคนมั่นใจในตัวเองมาก แต่กลับโดนทำให้หายไปด้วยการเจอเรื่องบางอย่างในชีวิตค่ะ

    ReplyDelete